ระบบเขียนภาษากลุ่มชาติพันธุ์ด้วยอักษรไทย

การจัดทำระบบเขียนอักษรไทย มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้เจ้าของภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการจดบันทึกภูมิปัญญาทางด้านภาษาและวัฒนธรรม เนื่องจากภาษากลุ่มชาติพันธุ์หลายภาษาไม่มีระบบตัวเขียนมาก่อน การจัดทำระบบเขียนจะช่วยให้เจ้าของภาษาสามารถใช้บันทึกสิ่งที่ต้องการถ่ายทอดสู่รุ่นลูกหลานได้เป็นอย่างดี

ระบบเขียนอักษรไทยได้รับการพัฒนาขึ้นโดยผ่านกระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่นของเจ้าของภาษาที่ต้องการให้มีระบบตัวเขียนของตนเองเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูภาษา รวมไปถึงเจ้าของภาษาที่ต้องการให้มีการเรียนการสอนภาษาของตนเองในโรงเรียนท้องถิ่น เจ้าของภาษาจึงร่วมกับนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยมหิดลทดลองผลิตระบบตัวเขียนอักษรไทย มานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 โดยมีระบบเขียนภาษาชองอักษรไทย เป็นภาษากลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มแรกที่เริ่มทดลองระบบนี้

ระบบเขียนอักษรไทยที่จัดทำขึ้นนี้สามารถนำไปใช้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอนภาษากลุ่มชาติพันธุ์เป็นรายวิชาในโรงเรียนได้ อันจะทำให้นักเรียนในท้องถิ่นรักภาษาและวัฒนธรรมของตน มีความภูมิใจในภาษาท้องถิ่นและรักการอ่าน นอกจากนี้ผู้ที่สนใจเรียนรู้ภาษากลุ่มชาติพันธุ์ยังสามารถศึกษาภาษาต่าง ๆ จากระบบตัวเขียนอักษรไทยได้อีกด้วย

การพัฒนาระบบเขียนอักษรไทยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1. การพิจารณากำหนดอักษร และ 2. ขั้นตอนการทดสอบระบบเขียน

  1. ขั้นตอนการพิจารณากำหนดอักษร
    1. ศึกษาระบบเสียง ที่ได้มีการศึกษาไว้แล้วและนักวิชาการรวบรวมคำศัพท์เป็นพจนานุกรม
    2. เลือกอักษรไทย ที่จะใช้แทนเสียงพยัญชนะ สระ และลักษณะน้ำเสียงหรือวรรณยุกต์ ในภาษานั้น โดยระบบตัวเขียนที่สร้างขึ้นต้องแสดงลักษณะของภาษาได้ อย่างน้อยต้องแสดงลักษณะหน่วยเสียงสำคัญของภาษาได้ครบ
    3. ระบบตัวเขียน ต้องมีลักษณะสม่ำเสมอ คงที่ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และเลือกเขียนตามถิ่นใดถิ่นหนึ่ง
    4. ระบบตัวเขียน ต้องใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ เพื่อสะดวกในการเผยแพร่
  2. ขั้นตอนการทดสอบระบบเขียน
    1. ทดสอบระบบเขียนในรูปแบบคำ ประโยค และข้อความที่เป็นเรื่องสั้น เช่น เจ้าของภาษาอ่านบัตรคำ จับคู่ภาพและบัตรคำ อ่านประโยคและอ่านข้อความสั้น ๆ แล้วตอบคำถาม
    2. จัดอบรมระบบเขียนและฝึกเขียนเรื่องสั้น เช่น การเขียนเรื่องเล่า นิทานพื้นบ้าน หมวดคำศัพท์ต่าง ๆ
    3. หลังจากนั้น ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม และจึงกำหนดเป็นระบบเขียนอักษรไทย

หลักเกณฑ์ในการกำหนดตัวเขียนภาษากลุ่มชาติพันธุ์อักษรไทยในแต่ละภาษาจะแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีหลักเกณฑ์สำคัญที่ใช้ร่วมกัน ที่ยึดหลักวิชาการทางภาษาศาสตร์และได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของภาษา ดังนี้

  1. หนึ่งรูป แทน หนึ่งเสียง - อักษร 1 รูป ใช้แทน 1 เสียง ด้วยอักษรเดียวกันทุกตำแหน่ง
  2. ใช้อักษรกลางและอักษรต่ำเท่านั้น หากใช้อักษรสูงจะมีเสียงวรรณยุกต์เข้ามาเกี่ยวข้อง
  3. เสียงเหมือนภาษาไทยให้ใช้รูปเหมือนภาษาไทย โดยเลือกใช้อักษรที่ใช้บ่อยในภาษาไทย เช่น อักษร ท แทนเสียง [th] ไม่ใช้ ฑ ฒ ฐ
  4. เสียงที่แตกต่างจากภาษาไทย ใช้อักษรไทยที่ออกเสียงใกล้เคียงกัน
  5. สำหรับ ลักษณะน้ำเสียง เป็นลักษณะพิเศษในบางภาษา ให้ใช้รูปวรรณยุกต์ [ ่ ] เอก, [ ้ ] โท, [ ๊ ] ตรี และ [ ๋ ] จัตวา แทนลักษณะน้ำเสียง
  6. ภาษาชาติพันธุ์หลายภาษามีพยัญชนะสะกดต่างจากภาษาไทย เช่น /c/ ‘จ’ /h/ ‘ฮ’ หรือ /ɲ/ ‘ญ’ และในกรณีที่รูปสระของพยางค์เป็นสระเสียงสั้นที่มีการประวิสรรชนีย์ (ะ) เป็นส่วนประกอบ (-ะ, เ-ะ, เ-าะ, แ-ะ, โ-ะ) ให้เขียนลดรูปตามอักขรวิธีไทย เช่น จัฮ = ดาย (กริยา) หรือ กะแท็ฮ = ฟ้าผ่า
  7. ใช้เครื่องหมายวรรคตอนเพื่อความสะดวกในการอ่าน เช่น เว้นวรรคระหว่างคำใช้เครื่องหมาย . (มหัพภาค) เมื่อจบประโยค

ระบบเขียนภาษากลุ่มชาติพันธุ์อักษรไทยที่จัดทำขึ้นนี้ หากนำไปใช้ทำพจนานุกรม สื่อการสอนและแบบเรียนภาษาชาติพันธุ์ต่าง ๆ จะทำให้นักเรียนที่มีเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์ต่างภูมิใจในภาษาของตน และยังสามารถเชื่อมโยงระหว่างการเรียนภาษาไทยกับภาษาของตนเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ระบบตัวเขียนภาษาต่างๆ

  • ระบบเขียนภาษาเลอเวือะอักษรไทย (Thai-Based Lawua Orthography)

    จัดทำขึ้นสำหรับภาษาที่ไม่มีระบบตัวเขียนมาก่อน เพื่อให้เจ้าของภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการจดบันทึกภูมิปัญญาทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ส่งต่อให้รุ่นลูกหลานอนุรักษ์และฟื้นฟูสืบต่อไป ในปีพ.ศ.2550 ภาษาเลอเวือะเริ่มพัฒนาระบบเขียนอักษรไทยเป็นครั้งแรก ในโครงการ “รักษ์ละโพงละเวือะ บ้านป่าแป๋อำเภอแม่สะเรียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน” โดยทีมวิจัยชาวเลอเวือะร่วมกับนักวิชาการด้านภาษาจากศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)    

    อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเขียนภาษากูย (บ้านขี้นาค) อักษรไทย (Thai-Based Kuy Orthography)

    จัดทำขึ้นสำหรับภาษาที่ไม่มีระบบตัวเขียนมาก่อน เพื่อให้เจ้าของภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการจดบันทึกภูมิปัญญาทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ส่งต่อให้รุ่นลูกหลานอนุรักษ์และฟื้นฟูสืบต่อไป ภาษากูย บ้านขี้นาค เริ่มพัฒนาระบบเขียนอักษรไทยเป็นครั้งแรก ในโครงการ “แนวทางการสร้างเครื่องมือเพื่อบันทึกภาษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นชาวกูย ผ่านภูมิปัญญาการทอผ้าไหม” ชุมชนบ้านขี้นาค ต.ตูม อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โดยทีมวิจัยชาวกูยร่วมกับนักวิชาการด้านภาษาจากศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  

    อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเขียนภาษาขมุ (บ้านห้วยเอียน) อักษรไทย (Thai-Based Khmu Orthography)

    จัดทำขึ้นสำหรับภาษาที่ไม่มีระบบตัวเขียนมาก่อน เพื่อให้เจ้าของภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการจดบันทึกภูมิปัญญาทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ส่งต่อให้รุ่นลูกหลานอนุรักษ์และฟื้นฟูสืบต่อไป ในปีพ.ศ.2557 ภาษาขมุ บ้านห้วยเอียน เริ่มพัฒนาระบบเขียนอักษรไทยเป็นครั้งแรก ในโครงการ “ฟื้นฟูภาษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นขมุเพื่อเด็กและเยาวชนบ้านห้วยเอียนตำบลหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่นจังหวัดเชียงราย” โดยทีมวิจัยชาวขมุร่วมกับนักวิชาการด้านภาษาจากศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

    อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเขียนภาษาก๋องอักษรไทย (Thai-Based Gong Orthography)

    จัดทำขึ้นสำหรับภาษาที่ไม่มีระบบตัวเขียนมาก่อน เพื่อให้เจ้าของภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการจดบันทึกภูมิปัญญาทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ส่งต่อให้รุ่นลูกหลานอนุรักษ์และฟื้นฟูสืบต่อไป  ในปีพ.ศ.2548 ภาษาก๋อง ได้เริ่มพัฒนาระบบเขียนอักษรไทยเป็นครั้งแรก ในโครงการ “การศึกษาและฟื้นฟูภาษา-วัฒนธรรมละว้า(ก๋อง)บ้านกกเชียง ต.ห้วยขมิ้นอ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี” โดยทีมวิจัยชาวก๋องร่วมกับนักวิชาการด้านภาษาจากศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

    อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเขียนภาษาชองอักษรไทย (Thai-Based Chong Orthography)

    จัดทำขึ้นสำหรับภาษาที่ไม่มีระบบตัวเขียนมาก่อน เพื่อให้เจ้าของภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการจดบันทึกภูมิปัญญาทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ส่งต่อให้รุ่นลูกหลานอนุรักษ์และฟื้นฟูสืบต่อไป ในปีพ.ศ.2544 ระบบเขียนอักษรไทยเริ่มพัฒนาจากภาษาชองเป็นภาษาแรก โดยทีมวิจัยชาวชองร่วมกับนักวิชาการด้านภาษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านขั้นตอนการพิจารณากำหนดอักษร การทดสอบระบบเขียน และหลักเกณฑ์การใช้ จนได้รับการรับรองจากราชบัณฑิตยสภาในปีพ.ศ. 2555

    อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเขียนภาษาอาข่าอักษรไทย (Thai-Based Akha Orthography)

    จัดทำขึ้นสำหรับภาษาที่ไม่มีระบบตัวเขียนมาก่อน เพื่อให้เจ้าของภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการจดบันทึกภูมิปัญญาทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ส่งต่อให้รุ่นลูกหลานอนุรักษ์และฟื้นฟูสืบต่อไป ภาษาอาข่า บ้านแม่สะแลป เริ่มพัฒนาระบบเขียนอักษรไทยเป็นครั้งแรก ในโครงการ “ฟื้นฟูภาษาและภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านประวัติศาสตร์และคำสอนชาวอาข่า บ้านแม่สะแลป ต.แม่สะลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยทีมวิจัยชาวอาข่าร่วมกับนักวิชาการด้านภาษาจากศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  

    อ่านเพิ่มเติม